ลดภาระการเป็นหนี้ด้วยสินเชื่อรวมหนี้
จากการสำรวจเมื่อต้นปี2567(2024)นั้นพบว่าคนไทยหลายล้านครัวเรือนนั้นล้วนแต่มีหนี้สินล้นตัวกันทั้งนั้น ซึ่งเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างช้านานและดูเหมือนว่าการแก้ปัญหาหนี้ของรัฐบาลยุคนี้นั้นจะให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเป็นพิเศษจึงทำให้เกิดโครงการหนึ่งที่มีชื่อว่าโครงการรวมหนี้หรือสินเชื่อรวมหนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเราๆนั่นเอง ซึ่งในวันนี้เราจะมาร่วมหาคำตอบกันว่าการรวมหนี้นั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้างรวมหนี้เป็นก้อนเดียวรัฐบาลที่ว่านั้นสามารถแก้ปัญหาให้ใครได้บ้างสมัครรวมหนี้เป็นก้อนเดียวรัฐบาลได้อย่างไร รวมถึงรายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับสินเชื่อรวมหนี้ให้ท่านได้มีทางออกและเข้าใจในหลักการแก้ปัญหาของการกู้รวมหนี้ได้นั่นเอง
ความหมายของสินเชื่อรวมหนี้
จนมาถึงจุดนี้แล้วเราเชื่อว่าต้องมีหลายๆคนที่ยังสงสัยว่าสินเชื่อรวมหนี้นั้นคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร โดยก่อนอื่นเราจึงจะขออธิบายก่อนว่าโครงการรวมหนี้นั้นคืออะไร โดยโครงการรวมหนี้นั้นเป็นโครงการที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยลูกหนี้รายย่อยโดยนำเสนอให้มีการการรวมหนี้เป็นหนี้ก้อนเดียว เพื่อที่จะลดภาระการเป็นหนี้หลายทางให้เป็นหนี้แค่ที่เดียว โดยสามารถชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อเช่าซื้อ มารวมกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยลดดอกเบี้ยให้เหลือแค่ดอกเบี้ย MRR และขยายเวลาชำระหนี้ได้อีกด้วย ซึ่งช่องทางหลักๆที่สามารถติดต่อได้ก็ได้แก่ สินเชื่อรวมหนี้กรุงไทยที่ต้องไปติดต่อที่ธนาคารกรุงไทย รวมหนี้เป็นก้อนเดียวกสิกรที่ทำการโดยธนาคารกสิกรไทย และรวมหนี้เป็นก้อนเดียวออมสิน เป็นต้น โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นจะไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และอื่นๆอีกทั้งท่านยังใช้วงเงินบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆได้อีกเหมือนเดิม
วิธีการรวมหนี้ของสินเชื่อรวมหนี้ทำอย่างไร
สำหรับรายละเอียดของการรวมหนี้นั้นเมื่อท่านทำการสมัครลงทะเบียนทางสินเชื่อรวมหนี้จะมีการรวมสินเชื่อทุกประเภท โดยใช้บ้านเป็นหลักประกัน โดยที่หนี้บ้านนั้นต้องไม่เป็น NPL หรือค้างชำระไม่เกิน90วัน มารวมกันกับหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน เช่นหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น เมื่อเข้าโครงการรวมหนี้แล้วนั้นอัตราหนี้บ้านของท่านจะไม่มีการเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ส่วนหนี้อื่นๆจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงไม่เกิน MRR ยกตัวอย่างคือหากท่านมีหนี้ของบ้าน 2ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ3ต่อปี และมีหนี้บัตรเครดิตออนไลน์ค้างอยู่กับอีกธนาคารหนึ่ง 1แสนบาทดอกเบี้ยร้อยละ 12ต่อปี และ MRRของธนาคารนี้อยู่ที่ร้อยละ 6 เมื่อท่านขอสินเชื่อรวมหนี้แล้วท่านจะมีหนี้ค่าบ้าน 2.1ล้านบาท ดอกเบี้ยค่าบ้านจะร้อยละ3เท่าเดิม ส่วนหนี้บัตรเครดิตท่านจะเสียดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ6 MRR นั้นหมายความว่าดอกเบี้ยจะลดลงและท่านสามารถผ่อนบัตรเครดิตได้นานขึ้นนั่นเอง
แนะนำแหล่งเงินด่วนนี้ด้วย
